เนื่องในโอกาสวันที่ ๔ พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท เอเรคี จำกัด

7 เรื่องควรรู้ “วันฉัตรมงคล” 4 พฤษภาคม มีความสำคัญกับราชวงศ์จักรีอย่างไร

เดือน “พฤษภาคม 2565” ถือว่ามีความสำคัญกับราชวงศ์จักรี เนื่องจากมีวันสำคัญด้วยกัน 2 วันคือ “วันฉัตรมงคล” และ “วันพืชมงคล”

“วันฉัตรมงคล” ซึ่ง ตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่าวันนี้มีความสำคัญในการสะท้อนประวัติศาสตร์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยมาหลายยุคหลายสมัย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ สรุป 7 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับ “วันฉัตรมงคล” มาฝากกัน

  1. “วันฉัตรมงคล” 4 พฤษภาคม 2565
    วันฉัตรมงคล คือ วันที่รำลึกถึง “พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร” หรือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดย “วันฉัตรมงคล” จะถูกกำหนดวันขึ้นตามวันบรมราชาภิเษกของกษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีนี้ขึ้นในวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ต่อมามีกำหนดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ จัดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งในปีต่อๆ ไป ให้ถือว่าวันดังกล่าวนี้ เป็น “วันฉัตรมงคล” และถือเป็นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

  1. “วันฉัตรมงคล” คือ พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร
    วันฉัตรมงคล (Coronation Day) มีความหมายตามพจนานุกรมว่า พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร ซึ่งจะกระทำในวันคล้ายวันบรมราชาภิเษก มีความเกี่ยวข้องกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นขั้นตอนตามโบราณราชประเพณีที่พระมหากษัตริย์ไทยได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการ ด้วยการถวายน้ำอภิเษก โดยแบ่งออกเป็น 2 พระราชพิธีสำคัญคือ 1)พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และ 2)พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
  1. “วันฉัตรมงคล” กำหนดวันขึ้นตามวันบรมราชาภิเษก
    ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ 9) พระราชพิธีฉัตรมงคลจัดขึ้นทุกวันที่ 5 พฤษภาคม เพราะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493

ต่อมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีนี้ขึ้นในวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการจัดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (วันฉัตรมงคลถูกกำหนดวันขึ้นตามวันบรมราชาภิเษก) และในปีถัดไปจึงถือว่าวันนี้เป็นวันฉัตรมงคล

  1. ย้อนดูประวัติศาสตร์ “พิธีบรมราชาภิเษก”
    พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมเนียมของ “ศาสนาฮินดู” และ “ศาสนาพุทธ” เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อป่าวประกาศให้เหล่าเทวดาฟ้าดินรับรู้ว่า บัดนี้จะมีพระมหากษัตริย์หรือพระผู้เป็นเจ้าเกิดขึ้นอีกพระองค์หนึ่งแล้ว

โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกประกอบไปด้วย พระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษก, พระราชพิธีถวายน้ำอภิเษก, พระราชพิธีถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และการสถาปนาพระราชินีและพระราชวงศ์ ส่วนพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร เป็นพระราชพิธีที่จัดขึ้นโดยเหล่าสมาชิกของราชวงศ์ในพระบรมมหาราชวัง

ภายหลังจากประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นแล้ว พระมหากษัตริย์จะประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง ไปประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะและเสด็จไปสักการะพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี

  1. พิธีบรมราชาภิเษก เริ่มมีตั้งแต่สุโขทัย
    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของไทย ปรากฏหลักฐานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คือ ศิลาจารึกวัดศรีชุมของพญาลิไทแห่งกรุงสุโขทัย กล่าวคือ พ่อขุนผาเมืองอภิเษกพระสหายคือ พ่อขุนบางกลางท่าว ให้เป็นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ครองกรุงสุโขทัย แต่ก็ไม่มีรายละเอียดว่าการประกอบพระราชพิธีในสมัยนั้น มีขั้นตอนอย่างใด
  2. พิธีบรมราชาภิเษก ปรับขั้นตอนตามกาลสมัย
    ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) เมื่อขึ้นเสวยราชสมบัติ ได้ทรงทำพระราชพิธีนี้อย่างสังเขป เมื่อ พ.ศ. 2325 ครั้งหนึ่งก่อน แล้วทรงตั้งคณะกรรมการ โดยมีเจ้าพระยาเพชรพิชัย ซึ่งเป็นข้าราชการ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นประธาน สอบสวนแบบแผนโดยถี่ถ้วน แล้วตั้งแบบแผนพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นตำรา

จากนั้นจึงทรงทำพิธีบรมราชาภิเษกเต็มตำราอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2328 และได้ใช้เป็นแบบแผนในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของรัชกาลต่อๆ มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแต่ละรัชกาลก็ได้ปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อยให้เหมาะแก่กาลสมัย

  1. ในพิธีฯ ใช้ภาษาบาลี, ทมิฬ ต่อมาถูกแปลเป็นภาษาไทย
    ส่วนในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ทรงเป็นปราชญ์ในทางอักษรศาสตร์และโบราณราชประเพณี ได้ทรงพระราชนิพนธ์คำกราบบังคมทูลของพราหมณ์และราชบัณฑิตขณะถวายเครื่องราชกกุธกัณฑ์ กับพระราชดำรัสตอบเป็นภาษาบาลี และคำแปลเป็นภาษาไทย

ทั้งนี้ อาจวิเคราะห์ได้ว่าพระราชพิธีนี้ มีคติที่มาจากลัทธิพราหมณ์ผสมกับความเชื่อทางพุทธศาสนา ส่วนบทมนต์ต่างๆ ของพราหมณ์นั้น นักวิชาการภาษาตะวันออกโบราณ วินิจฉัยว่าเป็นภาษาทมิฬโบราณ

อ้างอิงจาก : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1002333

❤️สอบถามเพิ่มเติม ปรึกษาการสร้างแบรนด์❤️
📮 E-Mail | GREENTECHBIOLAB@GMAIL.COM
🚩INBOX | m.me/greentechthailand
☎️ TEL | 082-326-5225,074-892897
📲 Line Official | @GREENTECHBIOLAB (มี @ ด้วยนะคะ)
สแกนคิวอาร์โค้ด https://lin.ee/w6DN7Ob

สนใจสารสกัดใกล้เคียง สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ที่ คลิ๊ก
For further information or interested to OEM Cosmetics, please visit: www.greentechbiolab.com

สอบถามเพิ่มเติม