แม้ว่าธุรกิจ E-Commerce จะมีมานานแล้วในประเทศไทย แต่ต้องยอมรับว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา จากปัญหาโรคระบาด #โควิด19 ทำให้เกิดการเติบโตในธุรกิจประเภทนี้มากขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ E-Commerce ก็ว่าได้ ซึ่งจากความสำคัญของธุรกิจนี้เอง E-Commerce ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่น่าสนใจ กระแสที่น่าสนใจของการเติบโตในธุรกิจ E-Commerce

  • E-Commerce Boom สร้างการแข่งขันที่สูงขึ้น

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มูลค่าตลาด E-Commerce ในปี 2020 มีมูลค่า 294,000 ล้านบาท โดยในปี 2019 อยู่ที่ 163,000 ล้านบาท เท่ากับว่า มีการเติบโตสูงขึ้นถึง 81%

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีสินค้าที่เข้ามายังตลาด E-Marketplace (เฉพาะ Lazada  Shoppee  JD Central) เพิ่มสูงขึ้นถึง 32% โดยในปี 2019 มี 174 ล้านชิ้น แต่ปี 2020 มีสินค้า 230 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นถึง 32% ในขณะที่มีร้านค้า (ผู้ขาย) เพิ่มสูงมากขึ้นถึง 50% โดยแบ่งเป็น ร้านค้าในประเทศมี 37% และร้านค้าจากต่างประเทศ 63% จึงทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าจากประเทศจีน ที่มีราคาที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทย ไม่อาจสู้ในเรื่อง “ราคา” ได้ คำแนะนำคือ ควรที่จะใส่ “ความคิดสร้างสรรค์” ลงไปในสินค้าด้วย จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในการแข่งขันที่ E-Marketplace นี้ได้

  • Direct to Consumer แบรนด์มุ่งสู่ออนไลน์มากขึ้น

ในอดีตแม้จะมีการจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์อยู่บ้างแล้วในแบรนด์และธุรกิจต่างๆ แต่ก็ไม่ได้มากอะไร แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 เม็ดเงินจำนวนมากถูกชิพมายังช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างทันที ในหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การเปิดเว็บออนไลน์เอง การใช้โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ E-Marketplace ทั้งนี้พบว่า มีร้านค้าและแบรนด์มุ่งสู่ตลาดอีมาร์เก็ตเพิ่มขึ้น (นับบน LazMall และ ShopeeMall) ถึง 46% โดยในปี 2019 มี 3,400 ร้านค้า แต่ในปี 2020 มีสูงถึง 5,000 ร้านค้า

สำหรับเหตุผลที่แบรนด์เริ่มทำการตลาดแบบ Direct to Consumer (D2C) บนออนไลน์มากขึ้น เพราะว่าแบรนด์ต้องการสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า

ตลาด E-Commerce ได้รับการพิสูจน์ว่ามีแนวโน้มที่เติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 และในปีนี้การกลับมาในระลอกใหม่ก็คาดว่าการการค้าออนไลน์ของไทยจะเติบโตขึ้นอีกครั้ง

สนใจบทความอื่นๆ ต่อไป สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ที่ คลิ๊ก

แหล่งที่มาจาก : https://www.marketingoops.com/

สอบถามเพิ่มเติม