สภา ไฟเขียว ท้องไม่เกิน 12 สัปดาห์ ทำแท้งได้ . ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา 4 เห็นด้วยกับที่ กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 273 ต่อ 47 งดออกเสียง 19 เสียง และต่อมาเวลา 15.55 น. ที่ประชุมลงมติในวาระสาม เห็นด้วยผ่านร่างกฎหมายทั้งฉบับ ด้วยคะแนน 276 ต่อ 8 งดออกเสียง 54 เสียง

วันที่ 20 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ….. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.ฯ ชี้แจงว่า กมธ.ได้ให้ความสนใจและเน้นการพิจารณาในส่วนของอายุครรภ์มารดาว่าจะต้องมีระยะเวลาเท่าใด โดยพิจารณาประกอบคำเสนอแนะของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2563 โดยได้ข้อสรุปอายุครรภ์ของหญิงไม่เกิน 12 สัปดาห์ เพื่อรักษาความสมดุลและเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกายของหญิงและสิทธิของเด็กในครรภ์

นอกจากนี้ กมธ.เน้นย้ำว่าไม่มีการทำแท้งเสรี หรือยุติการตั้งครรภ์แบบเสรี มีแต่การยินยอมให้ยุติการตั้งครรภ์แบบมีเงื่อนไข ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เปิดช่องทางให้เสรีภาพต่อหญิงในการยุติการตั้งครรภ์ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้เช่นเดียวกัน ซึ่งทาง กมธ.เห็นว่าไม่มีหญิงคนใดที่ต้องการท้องเพื่อที่จะไปทำแท้ง

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวมีทั้งหมด 4 มาตรา โดย กมธ.ฯแก้ไขมีสาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 3 ว่าด้วยกำหนดโทษสตรีที่ทำแท้งหรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง ขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 4 กมธ. แก้ไขว่า ถ้าเป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ถือว่าไม่ผิด ดังนี้

1.หญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น

2.เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง

3.หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์ เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ

4.หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์

และ 5.หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

ทั้งนี้ ในมาตรา 3 ที่ประชุมลงมติเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดโทษที่ กมธ.แก้ไข แต่เห็นด้วยกับร่างเดิมของรัฐบาลที่เสนอให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา 4 เห็นด้วยกับที่ กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 273 ต่อ 47 งดออกเสียง 19 เสียง และต่อมาเวลา 15.55 น. ที่ประชุมลงมติในวาระสาม เห็นด้วยผ่านร่างกฎหมายทั้งฉบับ ด้วยคะแนน 276 ต่อ 8 งดออกเสียง 54 เสียง

สนใจบทความอื่นๆ ต่อไป สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ที่ คลิ๊ก

แหล่งที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news

สอบถามเพิ่มเติม