“ต้นไม้แค่ต้นเดียว ช่วยลดมลพิษได้” 

เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ ประเทศไทยต้องเผชิญกับฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศมากมาย โดยเฉพาะในเขตเมืองและแหล่งอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีทั้งมลพิษทางอากาศภายในและภายนอกอาคาร ปัญหามลพิษเกิดจากหลายแหล่ง ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในประเทศไทยมีพรรณไม้ดูดสารพิษ ช่วยซับฝุ่นละอองมากมายที่ควรนำไปปลูกทั้งภายในและภายนอกอาคาร ขอแนะนำพรรณไม้ 22 ชนิด ที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

22 ไม้ประดับ ช่วยดูดซับสารพิษทางอากาศ

1. หมากเหลือง (Areca Palm หรือ Yellow Palm) เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ปลูกง่าย โตเร็ว เป็นพันธุ์ไม้ขนาดกลางสูง 5 – 10 เมตร ลำต้น มีลายคล้ายข้อปล้อง โค้งงอและตั้งตรงได้สัดส่วนสวยงาม ใบมีลักษณะเป็นรูปขนนก แผ่นใบมีสีเขียวอมเหลืองออกดอกอยู่ใต้กาบเป็นช่อสีเหลืองอ่อน ชอบแสงแดดจัดแต่ปลูกภายในอาคารได้

2. จั๋ง (Lady Palm) จั๋งเป็นพืชตระกูลปาล์มที่มีขนาดเล็ก ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน รูปใบพัดขึ้นเป็นกอคล้ายกอไผ่ มีความแข็งแรงมาก ถ้าปลูกลงดินนอกอาคารจะสูงได้ถึง 3 – 5 เมตร ถ้าปลูกในอาคารสูงไม่เกิน 2 เมตร เป็นพืชที่เจริญเติบโตช้า แต่เป็นพืชเลี้ยงง่ายและทนแล้ง จึงทนการขาดน้ำได้หลายวัน ทนต่อโรคและแมลงได้ดี อยู่ได้ทั้งแสงแดดจัดและกึ่งแดดได้ปลูกได้ในอาคารแต่ต้องมีแสงแดดพอสมควร

3.เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant) เป็นไม้กอขนาดเล็ก มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน เมื่อแก่เต็มที่จะมีลำต้นอ่อนแตกออกมาเป็นกิ่ง มีต้นอ่อนเล็ก ๆ เป็นกระจุกอยู่ตรงปลายของกิ่ง ใบมีลักษณะคล้ายใบหญ้า ขอบใบสีเขียวยาวตลอดใบ กลางใบเป็นสีขาวใบมีความยาว 15 – 30 เซนติเมตร โค้งงอลงด้านล่าง ไม่ชอบแสงแดดตรง ๆ ปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

4. ไอวี่ (Ivy) เป็นไม้เถาคลุมดิน แตกใบเป็นแฉก ๆ คล้ายใบตำลึง พื้นใบสีเขียว ขอบใบด่าง สีขาว หรือเหลืองอ่อน กลางใบอาจมีด่างสีเขียวอมเทา ชอบแสงรำไรและยังเจริญได้ดีในที่ที่เป็นแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนท์และปลูกได้ดีในอาคาร

5. เดหลี (Peace Lily) เป็นไม้พุ่มเตี้ย สูง 30 – 60 เซนติเมตร มีใบสีเขียวเข้มมันเป็นวาว ดอกเป็นช่อสีขาว หรือขาวแกมเหลือง กาบหุ้มช่อดอกมีสีขาว คล้ายดอกหน้าวัว ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร ปลูกได้ภายในอาคาร แม้จะมีความชื้นต่ำ และรับแสงจากหลอดไฟฟ้า

6. ยางอินเดีย (Rubber Plant) มีลำต้นตั้งตรง ลักษณะเด่นอยู่ที่ใบ มีลักษณะกลมรีปลายแหลม ใบหนาสีเขียวเข้ม เป็นมันวาว ถ้าปลูกกลางแจ้งจะสูงได้ถึง 30 เมตร ถ้าปลูกในอาคารจะสูงไม่มาก เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดแต่เจริญได้ดีในสภาพแสงน้อย

7. ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm) เป็นพืชตระกูลปาล์มที่มีหน่อแตกเป็นกอ ลำต้นมีขนาดเล็ก มีข้อปล้องสีเขียวเห็นได้ชัดเจนคล้ายต้นไผ่ ทั้งลำต้นและใบสูงเพียง 1.5 – 2 เมตรใบเป็นใบเดี ่ยว เรียวแหลม สีเขียวมัน ออกตรงข้ามกันเป็นคู่และอ่อนช้อย เจริญเติบโตช้า เลี้ยงง่าย ทนทาน และทนต่อแมลง เป็นไม้กึ่งแดด ร่มรำไร จึงปลูกได้ภายในอาคาร

8. พลูด่าง (Golden Pothos หรือ Devil’s Ivy) ใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจสีเขียวสดสลับกับสีเหลืองนวล เป็นไม้กึ่งแดดและร่มรำไร จึงปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร อาจได้แสงจากหลอดไฟก็ได้

9. บอสตันเฟิร์น (Boston Fern) ก้านใบแข็งโค้งออกและทิ้งตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น ใบขึ้นหนาทึบไม่มีดอก เป็นพืชกึ่งแดด ปลูกได้ภายในอาคารและนอกอาคาร

10. ซุ้มกระต่าย (Lily Turf) ซุ้มกระต่ายหรือเศรษฐีเรือนแก้ว มีลักษณะต้นขึ้นเป็นกอ ใบยาวได้ถึง 45 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวเป็นเส้นแคบยาว ปลายใบอ่อนโค้งเป็นพุ่ม มีดอกเล็ก ๆ เป็นช่อสีขาวและสีม่วง ชอบแสงแดดจัดและรำไร ปลูกภายในบ้านได้

11. ไทรใบเล็ก (Ficus Alii) เป็นพันธุ์ไม้ตระกูลเดียวกับยางอินเดีย ต่างกันที่ลักษณะของใบที่เรียวเล็กปลายแหลม ขอบใบเรียบและใบเป็นมันเงา เป็นพันธุ์ไม้พุ่มขนาดกลาง เป็นพืชที่ทนทาน อยู่ได้ในที่ที่มีแสงแดดอ่อนจนถึงแสงแดดจัดหรือกลางแจ้ง

12. วาสนาอธิษฐาน (Cornstalk Plant) มีลำต้นตั้งตรง มีสีน้ำตาลอ่อน สูงได้ถึง 5 – 6 เมตร เป็นใบเดี่ยวมีลักษณะเรียวยาว ใบจะแตกจากหน่อที่ปลายลำต้น ปลายแหลมโคนสอบเข้าหาใบ ซึ่งเป็นกาบติดกับลำต้นพื้นใบสีเขียว มีลายสีเหลืองพาดกลางไปตามความยาวของใบ ดอกออกเป็นช่อสีเหลือง มีกลิ่นหอม ชอบแสงแดดจัด แต่อยู่ได้ในที่ร่มรำไร ปลูกในอาคารได้

13. เข็มริมแดง (Dragon Tree) ลักษณะใบแหลมเป็นพุ่มแตกออกจากตอหรือลำต้นที่ตั้งตรง เป็นพืชที่ทนทานมาก ใบมีทั้งเขียว เหลือง แดงอยู่ในใบเดียวกัน ขอบใบเป็นสีแดง ถ้าไม่ตัดยอด ลำต้นสูงไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าตัดยอด กิ่งใหม่จะแตกออกจากตอเดิม ใบที่แตกออกจะเป็นพุ่มดูสวยงามยิ่งขึ้น ชอบน้ำมากแต่ไม่ถึงกับแฉะ จึงควรหมั่นฉีดละอองน้ำให้แก่ใบ

14. หนวดปลาหมึก (Schefflera หรือ Umbrella tree) ใบมีสีเขียวสดเป็นมัน ใบรีขอบใบหยักปลายแหลม ใบแตกออกมาจากกิ่งเดียว โดยแต่ละกิ่งจะมีใบประมาณ 7 – 15 ใบ ซึ่งกางออกคล้ายฝ่ามือ ก้าน ๆ หนึ่งนี้มีใบย่อยอยู่ประมาณ 5 – 12 ใบ แตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นทรงพุ่มแน่น เป็นพันธุ์ไม้ที่สูงได้ถึง 3 เมตร เป็นไม้กึ่งร่ม ไม่ชอบแสงแดดจัด จึงปลูกได้ภายในอาคาร

15.ลิ้นมังกร (Snake Plant) ลิ้นมังกรมีหลายชนิดมีทั้งลิ้นมังกรสั้น ลิ้นมังกรยาว และลิ้นมังกรลาย หรือเรียกว่า หอกพระอินทร์ ลิ้นมังกรมีลำต้นเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน ใบเกิดจากหัวโผล่ออกมาพ้นดินประกอบกันเป็นกอ ลักษณะใบเป็นแท่งกลมยาวหรือใบแบนกว้าง ปลายแหลม แข็ง หนาเป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อยหรือเป็นเกลียว ใบกว้างประมาณ 4 – 7 เซนติเมตร และสูงประมาณ 30 – 60 เซนติเมตร มีลายตามแนวขวางและมีสีเหลืองบริเวณของใบตามแนวยาว ดอกมีสีขาวอมเขียว ชอบแสงแดดปานกลางถึงแสงแดดจัด ปลูกได้ภายในอาคารและภายนอกอาคาร

16. กล้วยไม้พันธุ์หวาย (Dendrobium Orchid) กล้วยไม้พันธุ์หวายเป็นที่รู้จักกันดีและนิยมตัดดอกมาปักแจกันหรือใช้ประดับตกแต่งในวาระต่าง ๆ เป็นไม้ที่ปลูกง่าย กล้วยไม้พันธุ์หวายออกดอกเป็นช่อ มีหลายสี ดอกจะอยู่ได้นานเป็นเดือน ชอบแสงแดดรำไร หรือปานกลาง

17. เบญจมาศ (Chrysanthemum) สูง 0.5 – 1.2 เมตร ผิวเปลือกต้นและกิ่งเป็นลายทางตามแนวยาว ต้น กิ่ง และใบมีกลิ่น ใบเรียงสลับ โคนตัดหรือสอบแหลมคล้ายรูปลิ่มแกมรูปฐานหัวใจ ขอบเว้าเป็นพู 3 – 5 พูรูปกลมหรือ รูปไข่ขอบเว้าเป็นจักหยาบ ๆ ปลายมนและเป็นติ่งเล็ก ๆ แผ่นใบหยาบ เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบสีขาวเด่นชัด ช่อดอกออกที่ปลายกิ่งและตามง่ามใบบน ๆ ดอกวงนอกเป็นดอกเพศเมียมี 1 – 2 ชั้นกลีบรูปลิ้น สีขาว เหลือง หรือม่วง ชอบแดดปานกลางถึงแสงแดดจัดอุณหภูมิที่เหมาะสม 18 – 24 องศาเซลเซียส

18. ไทรย้อยใบแหลม (Weeping Fig) สูง 5 – 10 เมตร ลักษณะทรงพุ่ม ใบสีเขียวสดห้อยย้อยสวยงาม ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปรีแกมรูปไข่ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ แผ่นใบค่อนข้างหนาเป็นมัน ปลูกนาน ๆ จะมีรากอากาศแตกออกมาตามกิ่งก้านห้อย ย้อยสู่พื้น ถ้าปลูกนอกอาคารใบจะเป็นพุ่มแน่น ถ้าปลูกในอาคารใบจะน้อยลงและต้นจะสูงโปร่ง เป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว แข็งแรงทนทาน ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ชอบแดดอ่อนจนถึงแสงแดดจัดและปลูกภายในอาคารได้

19. เสน่ห์จันทร์แดง (King of Hearts) เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นอยู่เหนือดิน ก้านใบกลม สีเขียว หรือเขียวอมแดงหรือแดงเลือดหมู ใบเป็นรูปหัวใจ กลมโต โคนใบมนเว้าเข้าหาก้านใบ แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันหลังใบ ถ้าปลูกในอาคารจะไม่ทนแล้งและโตช้า ชอบร่มหรือรำไร

20. สิบสองปันนา (Dwarf Date Palm) เป็นปาล์มในสกุลอินทผาลัมที ่มีขนาดต้นเล็ก สูง 1.5 – 2 เมตร ส่วนยอดของลำต้น จะมีกาบใบแตกออกมาเป็นสีเขียวเข้ม มีลักษณะเป็นรูปขนนกแผ่โค้งออกมารอบต้นทำให้สวยงาม ชอบแสงแดดจัดถึงปานกลาง

21. เยอบีร่า (Gerbara Daisy) เป็นไม้พุ่มที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นแฉก มีสีเขียวสด ก้านใบและใบมีขนละเอียด ก้านดอกแตกออกจากลำต้นใต้ดินยาวตั้งตรง ดอกมีหลากสีเช่น แดง ส้ม เหลือง ม่วง ชมพูและขาว เป็นต้น ชอบแสงแดดปานกลางถึงแสงแดดจัด แต่ปลูกได้ภายในอาคาร

22. ประกายเงิน (Dracaena Warneckei หรือ Striped Dracaens) ใบมีสีเขียวที่ริมขอบใบจะมีสีขาว และส่วนอื่นของใบจะมีสีขาวกระจายอยู่ทั่วไป ประกายเงินจะมีใบแคบและยาว ข้อถี่ มีกาบใบหุ้มลำต้นมาก ถ้าปลูกกลางแจ้งจะสูงได้ถึง 5 เมตร ถ้าปลูกในอาคารสูงได้ 3 เมตร เป็นพืชที่ปลูกได้ทั้งกลางแจ้งร่มรำไรและที่ร่ม และเป็นไม้ที่ปลูกง่ายและทนทาน

การปลูกต้นไม้ นอกจากจะสร้างความสวยงามและบรรยากาศให้กับบ้านแล้วนั้น ยังช่วยลดปริมาณสารพิษในอากาศที่สูดหายใจเข้าไปทุกวัน และลดความเสี่ยงจากสารพิษได้อีกด้วย ลองไปหามาปลูกกันดูนะ 🙂

สนใจบทความอื่นๆ ต่อไป สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ที่ คลิ๊ก

For further information or interested to OEM Cosmetics, please visit: www.greentechbiolab.com

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

– หนังสือ “เรียนรู้อยู่กับฝุ่น PM2.5” โดยกลุ่มเฝ้าระวังฝุ่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

– หนังสือ “อยู่อย่างไรภายใต้ภาวะมลพิษ ตอน ไม้ประดับดูดสารพิษ” กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

สอบถามเพิ่มเติม