สิ่งที่ต้องรู้และข้อควรระวังในการขยายตลาดสู่ประเทศจีน มีหลายอย่างที่ต้องเตรียมรับมืออย่าง ยิ่งในช่วงนี้แอดขอเรียกว่าเป็นยุคโควิค

1.ประเทศจีนเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

 ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงการตลาดแต่รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค กฎหมายหลายๆอย่าง เปลี่ยนแปลงเร็วมากถึงแม้ว่าไม่มี covid19 เกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ยกตัวอย่าง เช่น แอพ tiktok ที่เป็นของจีน คนใช้เยะมากในจีน คนจีน 9 ใน 10 ของคนที่ดูมือถือในขนาดที่ว่าง จะเป็นการเล่น tiktok นั้นหมายความว่า การซื้อขายผ่าน tiktok เยอะมาก “โซเชียลคอมเมิร์ซ” (social commerce) แค่ทำวิดีโอก็สามารถปิดการขายได้เยอะแยะ แจ๊ส มาร์ ได้กล่าวว่า “ เดี๋ยวนี้ขายของออนไลน์มันก็เป็นแบบ omni channel หรือการค้าปลีกแบบใหม่” คือการรวมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าด้วยกัน เพราะว่าคนจีนซื้อของออนไลน์กันมามากกว่า 15-20 ปีแล้ว ตอนนี้ปัญหาก็คือ มันไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ สังเกตจากเวลาซื้อสินค้าในมือถือ คือจะเห็นแค่ภาพ และเห็นของไม่กี่อย่าง ดังนั้นว่าการสัมผัสประสบการก็ไม่ได้สัมผัสกับของใหม่ๆ ที่ออกมาสู่ตลาดคนก็ไม่ค่อยเห็น เพราะจะเจอแต่สินค้าที่ขายดี จีนเลยมุ่งเน้นแบบ online + offline = omnichannel ซึ่งประเทศไทย เริ่มออนไลน์มามากี่ปี่ แต่จีนนั้นเขามองกันไปถึงจุกนี้แล้ว

2.ธุรกิจในจีน ทำได้ไม่เยอะ

ความหลากหลายในธุรกิจในจีนถ้าจะทำอาจจะทำได้ไม่เยอะมาก เพราะรัฐบาลจีนควบคุม ธุรกิจที่จะทำได้ในจีน มีไม่กี่แบบจึงเกิดเหตุการณ์ คือเมื่อทำได้ไม่กี่แบบ ผู้ประกอบการจึงรุมเข้าไปแย่งกันทำสิ่งที่ทำได้การแข่งขันมันเลยสูงมากกว่าที่เราคิด

3.ทำการตลาดแบบ ฟรี นั้นยากมากๆ

ตัวอย่างวิธีแบบเมื่อก่อน เช่น การแชร์ การสร้างแอพ นี้คือการทำการตลาดแบบฟรี แต่เดี่ยวนี้แอพมีเยอะมาก ที่เด่นชัด คือ wechat official แต่เดี่ยวนี้คนก็ทำแบบทางแอพกันเยอะมาก ดังนั้นก็เกิดช่องว่างนิดๆ หน่อยๆ ที่คุณอาจจะต้องเจาะลึกอย่างละเอียด ซึ่งมันก้จะยากที่จะเข้าถึงอุปนิสัยของกลุ่มเป้าหมายชาวจีนจริงๆ ว่าความต้องการเขาเป็นอย่างไรอันนี้ขึ้นอยู่กับการส๊กษากลุ่มเป้าหมายเองว่า เจาะได้ถูกกลุ่มถูกความต้องการหรือไม่

4.การโฆษณาที่จีน แพงมากๆ

ไม่ว่าจะโฆษณาที่ไหน เช่น bai du, Wechat, TikTok, 1688, Webo.com เหล่านี้แพงกว่าในประเทศไทยอย่างน้อยๆ มากกว่า 2 ถึง 3 เท่าเป็นอย่างต่ำ เพราะว่าด้วยจีนมีประชากรเยอะ การโฆษณาเหล่านี้มันคือการ BID (การประมูล) ประชาการจีนมีเยอะมาก การประมูลจึงมีเรทมี่สูง ราคาก็ยิ่งสูงตาม ถ้าคุณมีงบน้อยหรือเป็น sme ก็จะไม่คุ้มในการโฆษณา

สรุปข้อควรที่ต้องศึกษา คือ จีนมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากอาจจะตามไม่ทัน รัฐบาลจีนควบคุมเข้มเรื่องประเภทของสินค้าการโฆษณาฟรีที่จีน มีความยากมากและมีโอกาสสำเร็จน้อย เพราะการแข่งขันสูง ต้องเสียเงินทุ่มซื้อ (โฆษณา) ที่แพงมากๆในจีน

 ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยเยอะ เมื่อเข้ามาเที่ยวเยอะขึ้น ของที่ขายตามแหล่งท่องเที่ยวเมื่อก่อน ยังไม่เกลื่อนตลาดขนาดนี้  ของฝากที่ว่าคือกลุ่มเครื่องสำอาง อาหารเสริมหรือจะเป็นกลุ่มยาต่างๆ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเห็นก็มีการหอบหิ้วไปฝากพี่น้องเมื่อกลับประเทศ เมื่อให้แล้วใช้ดี ก็เลยมีการบอกต่อ คนที่มาเที่ยวก็ไปซื้อ ซื้อข้ามไปข้ามมา จึงมาการเกิดธุรกิจ Tai go (รับหิ้วของ) เมื่อนักท่องเที่ยวเยอะ บวกกับแบรนด์ต่างๆที่มีในช่วงแรกมีไม่เยอะเหมือนปัจจุบัน ก้เลยดังสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะว่านักท่องเที่ยวลดลงไป แถมยังประสบปัญหา covid-19 แล้วไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ แล้วอีกปัญหาคือผู้ประกอบการที่พยายามขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวก็มีเยอะมากในปัจจุบัน

บทความโดย : วรัทภพ รชตนาวงห์ warattapob

สนใจบทความในเกี่ยวกับตลาดจีนตอนต่อไป สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ที่ คลิ๊ก

For further information or interested to OEM Cosmetics, please visit: www.greentechbiolab.com

ที่มา : https://www.facebook.com/WarattapobRachatanamwong/

สอบถามเพิ่มเติม